The Standard

Subscribe to The Standard feed
สำนักข่าวออนไลน์ นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงสร้างสรรค์ ให้ความรู้ ความคิด และแรงบันดาลใจ.
Updated: 32 min 53 sec ago

ใช้สกินแคร์แล้วสิวขึ้น…ไม่ได้แปลว่าแพ้เสมอไป

Sun, 06/04/2023 - 19:37

เชื่อว่าต้องมีสักครั้งในชีวิตที่ซื้อสกินแคร์ตามที่ใครต่อใครว่าดีมาลอง แต่พอใช้ปุ๊บสิวกลับเห่อ ผดผื่นถามหาจนต้องตัดใจยกให้คนอื่นไม่ก็กลั้นใจทิ้งไป ข่าวดีที่เราอยากบอกคือ ความจริงแล้วคุณอาจจะไม่ได้แพ้สกินแคร์ชิ้นนั้น แต่แค่ระคายเคืองก็ได้นะ ดังนั้นก่อนจะทิ้งชิ้นที่ถูกวางลืมจนฝุ่นเกาะ เรามาทำความเข้าใจก่อนว่าอาการระคายเคืองและแพ้แตกต่างกันอย่างไร

 

อาการระคายเคือง (Irritation) 

อาการระคายเคืองนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น มลภาวะ สภาพอากาศ สารในเครื่องสำอางที่ใช้ ไม่ว่าจะเป็นสกินแคร์ น้ำหอม แอลกอฮอล์ รวมไปถึงสภาพผิวและความแข็งแรงของผิว ณ ช่วงเวลานั้น แน่นอนว่าใครที่เพิ่งผลัดเซลล์ผิว เลเซอร์มาหมาดๆ หรือมีผิวแห้งก็ย่อมมีโอกาสที่จะระคายเคืองได้ง่ายกว่า เนื่องจากเกราะคุ้มกันผิว (Skin Barrier) อ่อนแอนั่นเอง

 

อาการที่บ่งชี้ว่าเกิดจากการระคายเคืองนั้นเป็นได้ตั้งแต่ผื่น คัน สิว แสบแดง หรือแห้งลอก แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ทว่าอาการดังกล่าวนี้จะไม่เกิดกับทุกส่วนของร่างกาย เช่น หากคุณทาสกินแคร์กับผิวหน้าแล้วมีอาการคันยุบยิบ เป็นผื่น แต่พอล้างออกแล้วหาย หรือนำไปทาส่วนแขน ขา ลำตัวแล้วไม่เกิดอาการใดๆ แสดงว่าแท้จริงแล้วคุณไม่ได้แพ้สกินแคร์ชิ้นดังกล่าว แต่เป็นเพียงอาการระคายเคืองเท่านั้น

 

Solution

พักการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองผิวชั่วคราวแล้วไปฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรงก่อน เช่น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการอักเสบ หรือเติมความชุ่มชื้นด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อสร้างความแข็งแรงให้เกราะคุ้มกันผิว จากนั้นค่อยกลับมาใช้ผลิตภัณฑ์ตัวดังกล่าว โดยเริ่มจากปริมาณน้อย อาจลองเป็นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง คอยสังเกตดูอาการ แล้วค่อยๆ เพิ่มปริมาณตามความเหมาะสม

 

อาการแพ้ (Allergy)

อาการแพ้นั้นเป็นปฏิกิริยาส่วนบุคคลที่มีความคล้ายคลึงกับอาการระคายเคืองแต่รุนแรงกว่า เช่น หลังทาสกินแคร์แล้วเกิดผื่นแดง คัน บวม แสบ ลุกลามเป็นสิว และอาจรุนแรงลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ล้างผลิตภัณฑ์ออกแล้วก็ยังมีอาการ และที่สำคัญคือ ต่อให้นำมาใช้กับผิวบริเวณอื่นของร่างกาย หรือกลับมาใช้ซ้ำในวันข้างหน้าก็ยังมีอาการในลักษณะเดียวกันอยู่ดี 

 

Solution

หยุดใช้ทันที หากมีอาการแพ้รุนแรงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเพื่อรักษาตามอาการ  

 

ทดสอบอาการแพ้

การทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ถือเป็นวิธีที่แพทย์ผิวหนังแนะนำให้ทำอยู่เสมอ วิธีแรกคือการทดสอบด้วยตัวเองอย่างการทาผลิตภัณฑ์ในขนาดเท่าเหรียญ 10 บาท ไว้บริเวณหลังหู ท้องแขน หรือข้อพับ เช้า-เย็น เป็นเวลา 7-10 วัน แล้วคอยสังเกตอาการ ถ้าไม่มีอาการบ่งชี้ใดๆ ก็เป็นอันผ่าน หรือถ้าจะให้ชัวร์คือทำ Patch Test หรือการทดสอบภูมิแพ้ผิวหนังชนิดผื่นแพ้สัมผัสกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยตรง โดยแพทย์จะปิดแผ่นทดสอบบริเวณหลัง โดยที่เราจะต้องเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้แผ่นทดสอบโดนน้ำหรือมีเหงื่อเป็นเวลา 48 ชั่วโมง ก่อนกลับไปพบแพทย์เพื่อประเมินอีกครั้ง วิธีนี้ค่อนข้างให้ความแม่นยำและเป็นประโยชน์ต่อแนวทางการปฏิบัติตัวต่อไปในอนาคตได้ ที่สำคัญคือจะไม่ทำให้เราเสียทรัพย์ซื้อสกินแคร์ที่ไม่ถูกกับผิวมาใช้เก้อ   

 

อ้างอิง: 

The post ใช้สกินแคร์แล้วสิวขึ้น…ไม่ได้แปลว่าแพ้เสมอไป appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

พิธา ร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 ย้ำการผลักดันสมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ

Sun, 06/04/2023 - 19:32

ขบวนพาเหรดงานบางกอกไพรด์ 2023 หรือ Bangkok Pride 2023 ที่จัดขึ้นในวันนี้ (4 มิถุนายน) อบอวลด้วยบรรยากาศคึกคักตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะเมื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล และ แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ปรากฏตัวภายในงานเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเดือนแห่งความหลากหลายทางเพศ

 

 

โดยพิธาได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกี่ยวกับงานครั้งนี้ รวมถึงเป้าหมายการทำงานในฐานะฝ่ายรัฐบาล เช่น การเร่งผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ และการส่งเสริมให้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride ในอนาคต ดังนี้

 

“ดีใจครับที่มีงานบางกอกไพรด์ตอนนี้ เป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าความรักทุกรูปแบบของสังคมไทยมันเป็นไปได้ และความรักมีโอกาสจะชนะในหลายๆ เรื่อง ในสิ่งที่โลกอาจจะคาดคิดไม่ถึงมาก่อน

 

“เพราะฉะนั้น การที่มาฉลองกันวันนี้ก็คงไม่ใช่แค่เป็นพาเหรดหรือสัญลักษณ์แค่นั้น แต่ว่าเมื่อรัฐบาลตั้งได้เมื่อไร ก็ตั้งใจที่จะสนับสนุนเรื่องสมรสเท่าเทียม รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ สวัสดิการ ก็คงจะเป็น 2-3 เรื่องนี้ที่ทำให้การเฉลิมฉลองความหลากหลาย ‘Pride Month’ ให้เป็น ‘Pride Always’ จริงๆ

 

“พอถึงตอนนั้น คนก็จะมองประเทศไทยว่าเป็นพื้นที่ที่เปิดเผยได้ เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย เป็นพื้นที่อิสระที่จะให้คนเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แล้วก็ลบข้อครหาต่างๆ ว่าบางคนมีความรักในอาชีพของเขา อยากจะเป็นครูก็เป็นไม่ได้เพราะว่าเพศสภาพที่ไม่ได้รับการยอมรับ บางคนอาจจะวางแผนครอบครัว อยากจะสร้างบ้านก็ทำไม่ได้ บางคนแค่อยากจะวางแผนภาษี ซื้อประกันให้คนที่เรารักเมื่อปีที่แล้วก็ทำไม่ได้เหมือนกับคนทั่วไป

 

“เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราทำอย่างนี้ได้ ผมก็คิดว่าเป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความพร้อม แล้วก็สิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นคุณค่าที่คนไทยเชื่อร่วมกัน แล้วหลังจากนั้นก็จะสร้างสังคมที่ดีขึ้น

 

“แล้วก็หวังว่า World Pride ที่จัดที่ซิดนีย์หรือว่าวอชิงตัน ดี.ซี. ก็ดี ปี 2027-2028 ก็จะได้มาจัดที่กรุงเทพฯ เป็นเมืองเอเชียเมืองแรกของการจัดนิทรรศการแบบนี้ ซึ่งผลพวงที่ตามมาในเรื่องเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะสองหมื่นสามหมื่นล้านบาท และคนเกือบล้านภายในเวลาแค่ 17 วันอย่างที่เกิดขึ้นในซิดนีย์เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็จะเกิดขึ้นในประเทศไทยในที่สุด”

 

สำหรับร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม-คู่ชีวิตที่ถูกบรรจุเข้าพิจารณาวาระ 2 และ 3 เมื่อปีก่อนโดยการเสนอของพรรคก้าวไกล พิธาย้ำว่าจะผลักดันต่อไปให้สำเร็จภายใน 100 วันแรกเมื่อได้จัดตั้งรัฐบาล

 

“อย่างคราวที่แล้วผ่านวาระหนึ่งไปแล้ว ทั้งสมรสเท่าเทียมและคู่ชีวิตยังอยู่ในสภาอยู่ ก็สามารถที่จะผลักดันต่อได้เลย ถ้าพี่น้องสื่อมวลชนจำได้ แม้แต่วิปรัฐบาลในตอนนั้นก็บอกว่าให้ผ่านทั้งสองกฎหมาย

 

“และผมก็เห็นด้วยตรงที่ว่ามันไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติทางเพศ แต่เป็นเรื่องการปฏิบัติว่าคุณอยากจะใช้ชีวิตในความรักของคุณในระดับไหน ถ้าในระดับที่เป็นคู่สมรสเท่าเทียมก็ให้เป็นทางเลือกของคนโดยที่ไม่ได้จำกัดเพศสภาพ ถ้าผ่านทั้งคู่ ผมก็คิดว่าน่าจะเป็นนิมิตหมายอันดีของประเทศไทยในการสร้างสังคมใหม่ๆ ขึ้นมาร่วมกันได้

 

“แม้แต่วิปรัฐบาลสมัยก่อนก็บอกแล้วว่าไม่มีปัญหานะครับ ถ้าลองไปย้อนอ่านข่าวดู เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเอาเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทยก็เห็นด้วยในเรื่องนี้ ก็คงจะทำให้ผ่านสภาได้รวดเร็วในเรื่องของสมรสเท่าเทียมและรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ

 

“ในที่สุดเราก็จะแสดงให้โลกเห็นว่า ความหลากหลายไม่ใช่จุดอ่อน แต่เป็นจุดแข็งของประเทศนี้ Diversity ไม่ใช่ Weakness แต่เป็น Strength ของประเทศนี้ และผมคิดว่าอะไรดีๆ ที่จะตามมากับประเทศไทยจะมีอีกมากมายมหาศาล ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องสิทธิด้วย เป็นเรื่องสวัสดิการด้วย เป็นเรื่องความคิดสร้างสรรค์ด้วย เศรษฐกิจเป็นแค่เรื่องสุดท้ายเท่านั้นเอง”

The post พิธา ร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 ย้ำการผลักดันสมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

ปิดฉาก 14 ปี! เรอัล มาดริด แถลง คาริม เบนเซมา เตรียมอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้

Sun, 06/04/2023 - 19:12

วันนี้ (4 มิถุนายน) เรอัล มาดริด ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า คาริม เบนเซมา ดาวยิงชาวฝรั่งเศสวัย 35 ปี เตรียมอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้แบบไร้ค่าตัว หลังดาวยิงเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์คนล่าสุดอยู่ค้าแข้งในซานติอาโก เบร์นาเบว นาน 14 ปี 

 

ซึ่งเบนเซมาจะลงเล่นในสีเสื้อโลส บลังโกส ต่อหน้าแฟนบอลเป็นครั้งสุดท้ายในเกมปิดฤดูกาลที่มีคิวพบกับ แอธเลติก บิลเบา คืนนี้เวลา 23.30 น.

 

โดยแถลงการณ์บางส่วนจากถ้อยแถลงระบุว่า “เบนเซมาเป็นตัวอย่างของความประพฤติและความเป็นมืออาชีพ และเป็นผู้เล่นที่มีค่าของสโมสรของเรา ดังนั้นเขาควรได้รับสิทธิ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของเขา” 

 

นั่นทำให้เบนเซมาจะกลายเป็นนักเตะของทีมชุดใหญ่คนที่ 3 ที่ยืนยันว่าจะออกจากมาดริด หลังจากก่อนหน้านี้ทั้ง เอเดน อาซาร์ และ มาร์โก อาเซนซิโอ ประกาศอำลาทีมในช่วงซัมเมอร์ไปก่อนหน้านี้ 

 

ส่วนสถานีต่อไปนั้น สื่อต่างประเทศอย่าง BBC Sport รายงานว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมากองหน้าเฟรนช์แมนรายนี้มีข่าวเชื่อมโยงกับการย้ายไปค้าแข้งที่ลีกในประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างทีมอัล-อิติฮัด ที่คาดว่าได้ทำการเสนอค่าเหนื่อยประมาณ 400 ล้านยูโรกับสัญญา 2 ปี ให้เบนเซมาได้พิจารณา

 

ทั้งนี้ เบนเซมาปักหลักค้าแข้งในถิ่นซานติอาโก เบร์นาเบว นานถึง 14 ปี (นับตั้งแต่ปี 2009) ลงเล่นไปทั้งสิ้น 647 นัด ยิงไป 354 ประตู ซึ่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสโมสร เป็นรองเพียงโรนัลโดที่ทำไว้ 450 ประตู 

 

และมีส่วนร่วมพาเรอัล มาดริดได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 5 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 5 สมัย, แชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 4 สมัย, แชมป์ลาลีกา 4 สมัย, แชมป์โกปา เดล เรย์ 3 สมัย และแชมป์สแปนิชซูเปอร์คัพ 4 สมัย 

 

อ้างอิง:

The post ปิดฉาก 14 ปี! เรอัล มาดริด แถลง คาริม เบนเซมา เตรียมอำลาทีมหลังจบฤดูกาลนี้ appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

ศาลอาญาไม่ให้ประกันกลุ่มนักเที่ยวร้าน ‘Diamond KTV’ ทั้งชาวจีน -ไทย รวม 3 สำนวน หลังตำรวจยื่นฝากขัง

Sun, 06/04/2023 - 19:09

วันนี้ (4 มิถุนายน) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) มักกะสัน ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 กลุ่มคนจีนและคนไทย (หญิงไทย 3 คน ชายไทย 1 คน) รวม 18 คน ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย

 

โดยเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นที่อาคารเมรีอาบอบนวด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง พบร้านคาราโอเกะเปิดให้บริการในตึกเมรีอาบอบนวด พบมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนภายในห้องชั้น 1 ซึ่งในห้องเกิดเหตุพบมีการดื่มแอลกอฮอล์และมั่วสุมเสพยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่จับกุมชาวจีนและคนไทยรวม 18 คน แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ

 

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นนี้ด้วย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติ หากปล่อยตัวแล้วเกรงว่าจะหลบหนี โดยพนักงานสอบสวนขอฝากขังเป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 4-15 มิถุนายนนี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 20 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง กับผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา

 

นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ยังยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 กลุ่มคนจีน, ไต้หวัน, เวียดนาม, สปป.ลาว และเมียนมา กับพวกรวม 23 คน (มีหญิงไทย 2 คน ชายไทย 1 คน) ชุดที่ 2 ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน และยาอี โดยผิดกฎหมาย และร่วมกันครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 คีตามีนโดยผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติด และเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด

 

และดำเนินคดี หลิวชี อายุ 34 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาที่ 1 อีกในข้อหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต, ฝ่าฝืนขายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต, ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด, ยินยอมปล่อยปละละเลยให้มีการพกพาอาวุธและยาเสพติดเข้าไปในสถานที่ของตนฯ  

 

โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมได้ที่ร้าน Diamond KTV ภายในอาคารเมรีอาบอบนวด เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 02.30 น. โดยพนักงานสอบสวนขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-15 มิถุนายนนี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 10 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง กับผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา

 

โดยขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นนี้ด้วย เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาทุกรายเป็นการมั่วสุมยาเสพติดในสถานที่ที่จัดให้มีการเสพยาเสพติด และมีพฤติการณ์ไม่เคารพต่อกฎหมายไทย ได้เสนอขอยกเลิกสิทธิการอยู่ในราชอาณาจักรไทยชั่วคราวไว้แล้ว

 

และกรณีที่พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ยื่นคำร้องฝากขังครั้งที่ 1 กลุ่มคนจีนกับพวกรวม 11 คน (มีหญิงไทย 2 คน ชายไทย 1 คน) ชุดที่ 3 ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดี ร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 1 เมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 คีตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ ซึ่งทั้งหมดถูกจับกุมได้ที่ร้าน Diamond KTV ภายในอาคารเมรีอาบอบนวด เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2566 เวลา 02.30 น. 

 

ซึ่งพนักงานสอบสวนขอฝากขังเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-15 มิถุนายนนี้ เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง กับผลตรวจลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา โดยขอคัดค้านการให้ประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นนี้ด้วย เนื่องจากการกระทำของผู้ต้องหาทุกรายเป็นการมั่วสุมยาเสพติดในสถานที่ที่จัดให้มีการเสพยาเสพติด และมีพฤติการณ์ไม่เคารพต่อกฎหมายไทย ได้เสนอขอยกเลิกสิทธิการอยู่ในราชอาณาจักรไทยชั่วคราวไว้แล้ว

 

ทั้งนี้ ศาลอาญาพิจารณาคำร้องฝากขังและเหตุจำเป็นทั้ง 3 สำนวน อนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้องทั้งหมด

 

ภายหลังการฝากขัง หญิง-ชายไทยผู้ต้องหาที่ 4, 16, 17, 18 ชุดถูกจับกุมดำเนินคดีกับพวกรวม 18 คนได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 50,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวด้วย โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำที่ถูกกล่าวหาเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหาร่วมกันกระทำการในลักษณะมั่วสุมเพื่อเสพยาเสพติด อันเป็นการกระทำความผิดที่มีอัตราโทษสูง มีลักษณะเป็นภัยต่อสังคมโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย น่าเชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านในชั้นนี้ จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ให้ยกคำร้อง

 

ขณะที่มีผู้ต้องหาหญิง-ชายไทย ผู้ต้องหาที่ 4, 5 และชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 9 ชุดถูกจับกุมดำเนินคดีกับพวกรวม 11 คน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 50,000-75,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวด้วย 

 

โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำที่ถูกกล่าวหาเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหา ร่วมกันกระทำการในลักษณะมั่วสุมเพื่อเสพยาเสพติด อันเป็นการกระทำความผิดที่มีอัตราโทษสูง มีลักษณะเป็นภัยต่อสังคม อีกทั้งผู้ต้องหาเป็นบุคคลต่างชาติ ไม่มีภูมิลำเนาแน่นอนในราชอาณาจักร การกระทำโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย น่าเชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ให้ยกคำร้อง

 

และชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 3 กับหญิง-ชายไทย ผู้ต้องหาที่ 20, 21, 22 ชุดถูกจับกุมดำเนินคดีกับพวกรวม 23 คน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 50,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวด้วย 

 

โดยศาลอาญาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำที่ถูกกล่าวหาเป็นเรื่องที่ผู้ต้องหาร่วมกันกระทำการในลักษณะมั่วสุมเพื่อเสพยาเสพติด อันเป็นการกระทำความผิดที่มีอัตราโทษสูง มีลักษณะเป็นภัยต่อสังคมโดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย น่าเชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวจะหลบหนี ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้าน ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา ให้ยกคำร้อง

The post ศาลอาญาไม่ให้ประกันกลุ่มนักเที่ยวร้าน ‘Diamond KTV’ ทั้งชาวจีน -ไทย รวม 3 สำนวน หลังตำรวจยื่นฝากขัง appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

พลอย พลอยไพลิน รับบทนักฆ่าสาวมากฝีมือในหนังแอ็กชันไอเดียเจ๋ง Kitty The Killer เข้าฉาย 22 มิ.ย. นี้

Sun, 06/04/2023 - 19:05

Kitty The Killer อีหนูอันตราย ภาพยนตร์แอ็กชันไทยไอเดียเจ๋งจากค่ายทองคำฟิล์มส์ ที่ได้สองนักแสดงนำมากฝีมืออย่าง พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร และ เต๋า-สมชาย เข็มกลัด มาพาผู้ชมก้าวเข้าสู่โลกนักฆ่าที่จัดเต็มด้วยฉากแอ็กชันเท่ๆ โดยภาพยนตร์มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ในโรงภาพยนตร์ 

 

 

Kitty The Killer จะพาผู้ชมไปทำความรู้จักกับเหล่านักฆ่าสาวผู้มีโค้ดเนมว่า Kitty ที่คอยทำงานให้กับ The Agency องค์กรนักฆ่าที่ก่อตั้งมายาวนานกว่าพันปี วันหนึ่ง ดีน่า (พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร) Kitty มากฝีมือ และ Gray Fox (เต๋า-สมชาย เข็มกลัด) ครูผู้ฝึกสอนเหล่า Kitty ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตำนาน ถูก The Agency หักหลัง จนเกิดเป็นเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่านักฆ่าอันดุเดือด 

 

ภาพยนตร์ได้ ลี ทองคำ ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานหนังสัตว์ประหลาดไทยมาแล้วใน The Lake บึงกาฬ (2565) มารับหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวของโลกนักฆ่าไอเดียเจ๋ง

 

 

เสริมทัพด้วยทีมนักแสดงนำมากฝีมือที่จะมาจับดาบถือปืนและบู๊สนั่นจอ นำโดย พลอย-พลอยไพลิน ตั้งประภาพร จาก Low Season สุขสันต์วันโสด (2563), เต๋า-สมชาย เข็มกลัด จาก มือปืน/โลก/พระ/จัน (2544), เด่นคุณ งามเนตร จาก หวานใจนายกระจอก (2557), ปู-วิทยา ปานศรีงาม จาก The Lake บึงกาฬ, ภัทร ฉัตรบริรักษ์ จาก บัลลังก์ดอกไม้ (2560) และ เจนนี่-รติพันธ์ พันธ์พินิจ จาก กับดักเสน่หา (2560)

 

รับชมตัวอย่างได้ที่:

 

 

The post พลอย พลอยไพลิน รับบทนักฆ่าสาวมากฝีมือในหนังแอ็กชันไอเดียเจ๋ง Kitty The Killer เข้าฉาย 22 มิ.ย. นี้ appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เลือกตั้ง 2566 : อุ๊งอิ๊ง ตื่นเต้นทักษิณเตรียมกลับไทย ก.ค. นี้ เรื่องงานการเมืองขอคุยกับพิธาผ่านพรรค เพื่อความมืออาชีพ

Sun, 06/04/2023 - 19:00

วันนี้ (4 มิถุนายน) อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการผลักดันนโยบายเรื่องความเท่าเทียมทางเพศว่า ทั้งการสมรสเท่าเทียม หรือความหลากหลายทางเพศ พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้แน่นอน 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะผลักดันเป็นกฎหมายหลักๆ หากเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเลยหรือไม่ แพทองธารตอบว่า ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ ที่รัฐบาลชุดต่อไปจะต้องผลักดันเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องแรกๆ ซึ่งความเท่าเทียมหรือความหลากหลายทางเพศสำคัญมากๆ และไม่ควรจะมีเรื่องเพศเป็นตัวกำหนดให้ชีวิตของเราดำเนินได้ไม่เต็มที่ ไม่เต็มศักยภาพ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้พูดคุยเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล เพิ่มเติมนอกจากวันประกาศผลเลือกตั้ง แล้วหรือไม่ แพทองธารกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเพราะคิดว่าพิธาน่าจะยุ่งมาก ส่วนตนที่ผ่านมาก็ไปเลี้ยงลูก ก็ยุ่งเช่นกัน แต่ก็ติดตามข่าวตลอด มีความเคลื่อนไหวอย่างไรก็เอาใจช่วยอยู่ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า งานนี้เหมือนจะเป็นงานแรกที่ได้มาเจอกันหรือไม่ แพทองธารตอบว่า งานนี้ได้โอกาสเหมาะพอดีในการจัดเวลาของตัวเองด้วย วันนี้เจอกันก็คงจะทักทายก่อน แต่ในเรื่องของรายละเอียดการทำงานการเมืองคงจะคุยกันผ่านทางพรรคจะดีกว่า จะได้เป็นมืออาชีพ แต่ส่วนตัวก็รู้จักกับพิธามานานแล้ว เจอก็ทักทายแน่นอน 

 

ส่วนกรณีของ มดดำ-คชาภา ตันเจริญ พิธีกร ที่ได้สัมภาษณ์ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงเรื่องที่จะกลับประเทศไทย โดยทักษิณบอกให้ถามกับอุ๊งอิ๊งนั้น แพทองธารตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าวันไหน หากทราบแล้วนักข่าวจะไม่พลาดแน่นอน ตนก็จะมาบอก 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า จะเป็นภายในเดือนกรกฎาคมหรือไม่ แพทองธารระบุว่า เห็นว่าอย่างนั้น ว่าจะเป็นกรกฎาคม แต่วันที่ยังไม่ได้ระบุ ส่วนตัวยังไม่คอนเฟิร์ม ส่วนวิธีการกลับมาอย่างไรนั้น ตนในฐานะลูกก็อยากจะไปรับ จะได้กลับบ้านพร้อมกัน คิดแล้วก็ตื่นเต้น ถ้าทราบอะไรแล้วจะบอก ส่วนตัวเคารพการตัดสินใจของคุณพ่อ จะเป็นอย่างไรก็ได้

The post เลือกตั้ง 2566 : อุ๊งอิ๊ง ตื่นเต้นทักษิณเตรียมกลับไทย ก.ค. นี้ เรื่องงานการเมืองขอคุยกับพิธาผ่านพรรค เพื่อความมืออาชีพ appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เลือกตั้ง 2566 : พิธามั่นใจ การจัดตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี พร้อมดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศใน 100 วันแรก

Sun, 06/04/2023 - 18:57

วันนี้ (4 มิถุนายน) ที่ลานกิจกรรมสยามดิสคัฟเวอรี่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่งกายด้วยเสื้อหลากสี ที่แสดงถึงความหลากหลายทางเพศ เข้าร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 

 

โดยพิธากล่าวว่า ดีใจที่มีงานบางกอกไพรด์ในวันนี้ ทำให้เห็นว่าเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าความรักทุกรูปแบบของสังคมไทยมันเป็นไปได้ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงโลกว่าความรักมีโอกาสที่จะชนะในหลายๆ เรื่อง ในสิ่งที่โลกอาจจะคาดคิดไม่ถึงมาก่อน การมาร่วมฉลองกันในวันนี้ไม่ใช่แค่เป็นพาเหรดหรือสัญลักษณ์เท่านั้น แต่เมื่อรัฐบาลจัดตั้งได้เมื่อไรก็ตั้งใจสนับสนุนในเรื่องของสมรสเท่าเทียม และการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ รวมทั้งเรื่องสวัสดิการ 

 

พิธากล่าวต่อไปว่า 2-3 เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ทำให้การเฉลิมฉลองความหลากหลายในเดือนแห่งไพรด์ ให้เป็นเรื่อง Pride Always คนจะได้มองประเทศไทยว่าเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ เป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นพื้นที่ที่จะทำให้คนเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด และลบคำครหาต่างๆ เพราะบางคนมีความรักในอาชีพของเขา แต่เป็นไม่ได้ เพราะเพศสภาพไม่ได้รับการยอมรับ บางคนวางแผนครอบครัว วางแผนภาษี ซื้อประกันให้คนที่เรารักก็ไม่สามารถทำได้ 

 

ดังนั้นการที่เราทำแบบนี้ได้จะแสดงให้เห็นถึงความพร้อม และสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นคุณค่าที่คนไทยเชื่อร่วมกัน และเป็นการสร้างสังคมที่ดีขึ้น และหวังว่างาน World Pride 2028 จะมาจัดที่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย เป็นประเทศเอเชียประเทศแรกของการจัดเทศกาลนี้ จะมีผลพวงเรื่องเศรษฐกิจตามมา 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะผลักดันพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรใน 100 วันแรกหรือไม่ พิธากล่าวว่า ใช่ น่าจะภายใน 100 วันแรกเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องที่ค้างอยู่แล้ว คณะกรรมาธิการทำงานเสร็จแล้ว แม้แต่วิปรัฐบาลชุดก่อนก็บอกว่าไม่มีปัญหา ดังนั้นหากนำเข้าสภาไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกลหรือพรรคเพื่อไทย จะทำให้ผ่านสภาได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดจะแสดงให้โลกเห็นว่าความหลากหลายไม่ได้เป็นจุดอ่อนของประเทศนี้ แต่เป็นจุดแข็ง และคิดว่าอะไรดีๆ จะตามมามากมาย ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องสิทธิสวัสดิการ เศรษฐกิจเป็นแค่เรื่องสุดท้ายเท่านั้น 

 

ในส่วนความคืบหน้าของการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะตำแหน่งประธานสภา พิธากล่าวว่า มีความคืบหน้าเรื่อยๆ โดยในวันอังคารที่ 6 มิถุนายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานว่าจะมีทางออกอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยจะเน้นพูดคุยเรื่องพลังงานเป็นหลัก และจะได้เคาะคณะทำงานเพิ่ม 

 

จากนั้นในวันที่ 7 มิถุนายน จะเป็นการประชุมหัวหน้าพรรค ส่วนการเจรจาก็เป็นไปตามที่ได้แถลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เข้าใจว่ามีความคืบหน้าพอสมควร และบริบทก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ และคิดว่าสักวันหนึ่งจะจบลงด้วยดี ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ทำให้เราเสียสมาธิในการแก้ปัญหาของประชาชน 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมชี้แจงกรณีหุ้นสื่อ พิธากล่าวว่า คงจะชี้แจงได้ว่าพร้อมที่จะชี้แจง ทั้งในเรื่องของหลักฐานและหลักกฎหมาย อย่างที่ตนบอกว่ายังไม่มีการติดต่อมาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้วยซ้ำ ไม่รู้กันด้วยซ้ำว่าเขาสงสัยกันประเด็นใด รอให้มีเอกสารมาก็จะทำเอกสารชี้แจงกลับ พร้อมให้ความร่วมมือที่จะทำให้เขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์ และคงไม่มีอะไรที่จะทำให้การตั้งรัฐบาลสะดุดลงได้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าพิธาเทขายหุ้นไปแล้ว พิธากล่าวว่า ต้องรอดูเอกสาร 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี สาธิต ปิตุเตชะ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย โพสต์ตั้งคำถามกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่เอาพรรคชาติพัฒนากล้า เพราะเคยโหวตให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่จับมือกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) หลายคนที่เคยโหวตให้ พล.อ. ประยุทธ์เช่นกันนั้น พิธากล่าวว่า ตรงนี้ตนคงคอมเมนต์ไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ดูรายละเอียด ให้เห็นคอมเมนต์แล้วค่อยคอมเมนต์อีกทีดีกว่า ไม่เช่นนั้นจะเข้าใจกันผิดพลาด เป็นเรื่องเป็นราวกันใหญ่ คนจะเป็นผู้นำของประเทศได้ ต้องรอดูก่อนว่ารายละเอียดมันเป็นอย่างไร ไม่อย่างนั้นคอมเมนต์ผิดจะเป็นเรื่องใหญ่

The post เลือกตั้ง 2566 : พิธามั่นใจ การจัดตั้งรัฐบาลจบลงด้วยดี พร้อมดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม-รับรองอัตลักษณ์ทางเพศใน 100 วันแรก appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

‘พิธา-อุ๊งอิ๊ง’ ร่วมงาน ‘บางกอกนฤมิตไพรด์’ เปลี่ยนถนนหน้าสยามเป็นถนนสีรุ้ง ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ดันสมรสเท่าเทียม

Sun, 06/04/2023 - 18:54

วันนี้ (4 มิถุนายน) บรรยากาศงานนฤมิตไพรด์ สะบัดธงบนถนนสีรุ้งแห่งความหมายใน ‘Bangkok Pride 2023’ ซึ่งกรุงเทพมหานคร ร่วมกับบริษัท นฤมิตไพรด์ จำกัด จัดขึ้น โดยมีการปิดถนนตั้งแต่บริเวณแยกปทุมวัน ถนนพระราม 1 ฝั่งสยามพิวรรธน์ จนถึงแยกราชประสงค์บริเวณลานเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อเดินขบวนพาเหรดอย่างยิ่งใหญ่และมีความสร้างสรรค์ ภายใต้แนวคิดสุขภาวะของผู้มีความหลากหลายทางเพศ มุ่งหวังให้มีความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในทุกด้าน ทั้งเพศ เชื้อชาติ สุขภาพ อย่างเท่าเทียม

 

สำหรับกิจกรรมวันนี้ มีทั้งวงการดารา นักแสดง นักเคลื่อนไหว กลุ่มสิทธิมนุษยชน นักการเมือง อินฟลูเอ็นเซอร์ มาร่วมแสดงจุดยืนจำนวนมาก ได้แก่ พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้ม​เจริญ​รัตน์​ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พาว่าที่ ส.ส. มากกว่า 40 คนมาร่วมงาน

 

ขณะที่พรรคเพื่อไทย นำมาโดย แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค พาว่าที่ ส.ส. และสมาชิกพรรคมาร่วมงานกว่า 80 คน และพรรคเพื่อไทย ยังมีขบวนที่ตกแต่งด้วยเหล่าบรรดานก ไม่ว่าจะเป็นนกฟีนิกซ์ นกยูง ผีเสื้อ และกุหลาบสีรุ้ง ซึ่งแต่ละอย่างแฝงไปด้วยความหมาย อย่างนกฟีนิกซ์ หมายถึงว่า ไม่มีวันตาย เป็นนิรันดร์ ขณะที่นกยูง แทนความงามของเพศ ผีเสื้อแทนความหลากหลายของเพศที่มีสีสัน และดอกกุหลาบสีรุ้งแสดงถึงความงามและความอดทนของ LGBTQIA+ ที่มีความหวังเพื่อสมรสเท่าเทียม

 

นอกจากนี้ ยังมีพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น พรรคไทยสร้างไทย ​นำมาโดย น.ต. ศิธา ทิวารี แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค รวมถึงบรรดาคนการเมืองที่ออกมาแสดงจุดยืนจำนวนมาก

 

ขณะที่ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในเจ้าภาพจัดงาน เดินทางมาพร้อมกับ แสนดี-แสนปิติ สิทธิพันธุ์ บุตรชายด้วย

The post ‘พิธา-อุ๊งอิ๊ง’ ร่วมงาน ‘บางกอกนฤมิตไพรด์’ เปลี่ยนถนนหน้าสยามเป็นถนนสีรุ้ง ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ดันสมรสเท่าเทียม appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

อันนา-นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด กับ มูนา-เบญญาภา เอี่ยมสอาด ได้รองแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023

Sun, 06/04/2023 - 18:25

วันนี้ (4 มิถุนายน) การแข่งขันแบดมินตันในรายการ ‘โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023’ ทัวร์นาเมนต์ระดับเอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเงินรางวัลรวม 420,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,280,000 บาท ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก

 

โดยในประเภทหญิงคู่รอบชิงชนะเลิศ อันนา-นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด กับ มูนา-เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มือวาง 6 ของรายการ คู่มืออันดับ 12 ของโลก ลงสนามพบกับ คิมโซยอง กับ กองฮียอง คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 7 ของโลกจากเกาหลีใต้

 

เกมแรกเป็นคู่เกาหลีใต้ที่ชนะไปก่อน 21-13 ก่อนเกมที่ 2 คู่เกาหลีขึ้นนำไปก่อน 16-12 แม้ว่าคู่ไทยพยายามไล่ขึ้นมา แต่สุดท้ายต้านความแข็งแกร่งของเกาหลีไม่ไหว แพ้ไป 17-21 จบเกมเป็นคู่เกาหลีใต้ที่เอาชนะไปได้ 2 เกมรวดด้วยสกอร์ 21-13 และ 21-17 คว้าแชมป์ไปครอง

The post อันนา-นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด กับ มูนา-เบญญาภา เอี่ยมสอาด ได้รองแชมป์ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

จีนเตือนก่อตั้งพันธมิตรทางทหารคล้าย NATO ในเอเชีย-แปซิฟิก ผลักภูมิภาคสู่วังวนความขัดแย้ง

Sun, 06/04/2023 - 18:18

พล.อ. หลี่ฉางฟู่ (Li Shangfu) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีน กล่าวในการประชุมความมั่นคง Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์วันนี้ (4 มิถุนายน) เตือนการจัดตั้งพันธมิตรทางทหารคล้ายองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ NATO ขึ้นในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อาจผลักทั้งภูมิภาคไปสู่วังวนแห่งความขัดแย้ง

 

“โดยเนื้อแท้แล้ว ความพยายามที่จะผลักดันให้มีกลุ่มพันธมิตรที่มีลักษณะคล้าย NATO ในเอเชีย-แปซิฟิกนั้น เป็นวิธีการลักพาตัวประเทศในภูมิภาค และจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและการเผชิญหน้าที่เกินปกติ ซึ่งรังแต่จะทำให้เอเชีย-แปซิฟิกจมดิ่งไปสู่วังวนแห่งข้อพิพาทและความขัดแย้ง”

 

ขณะที่เขาชี้ว่า “เอเชีย-แปซิฟิกในปัจจุบันต้องการความร่วมมือที่เปิดกว้างและครอบคลุม ไม่ใช่การรวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ” และย้ำว่า “ต้องไม่ลืมภัยพิบัติร้ายแรงที่เกิดกับผู้คนในทุกประเทศอันเนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และต้องไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์อันน่าสลดใจดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำรอย”

 

ทั้งนี้ พล.อ. หลี่ไม่ได้ระบุถึงประเทศใดอย่างชัดเจน แต่คาดว่าเป็นการสื่อถึงสหรัฐฯ ที่มีการเดินหน้าสร้างกลุ่มพันธมิตรและหุ้นส่วนในเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึง AUKUS ที่จับมือกับออสเตรเลียและอังกฤษ และกลุ่ม QUAD ที่ร่วมกับออสเตรเลีย อินเดีย และญี่ปุ่น

 

นอกจากนี้ พล.อ. หลี่ยังกล่าวหา ‘บางประเทศ’ ที่พยายามเพิ่มการแข่งขันทางอาวุธ และจงใจแทรกแซงกิจการภายในของผู้อื่น และระบุว่า “ความคิดแบบสงครามเย็นกำลังฟื้นคืนชีพในขณะนี้ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความมั่นคงอย่างมาก” และมองว่า “ความเคารพซึ่งกันและกันควรมีชัยชนะเหนือการกลั่นแกล้งและพยายามเป็นเจ้าโลก”

 

ท่าทีของ พล.อ. หลี่มีขึ้นหลังจากที่วานนี้ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อการที่จีนไม่เต็มใจมีส่วนร่วมในการจัดการกับวิกฤตทางทหาร และเตือนว่าการเจรจาคือกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

 

โดยความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งตึงเครียดอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาจากหลายประเด็น รวมถึงกรณีไต้หวันและข้อพิพาทด้านดินแดนในทะเลจีนใต้ ตลอดจนประเด็นความมั่นคงและการค้า ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน มีมาตรการจำกัดการส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์ไปยังจีน

 

อย่างไรก็ตาม พล.อ. หลี่ยืนยันว่า แม้จีนและสหรัฐฯ จะมีระบบที่แตกต่างและมีความต่างกันในหลายๆ ด้าน แต่โลกนี้ยังกว้างใหญ่พอที่ทั้งสองประเทศจะเติบโตไปด้วยกันได้

 

“สิ่งนี้ไม่ควรขัดขวางทั้งสองฝ่ายจากการแสวงหาจุดร่วมและผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคี และกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าความขัดแย้งหรือการเผชิญหน้าที่รุนแรงระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะเป็นหายนะที่ไม่อาจทนได้สำหรับโลก”

 

ภาพ: Britta Pedersen / Picture Alliance via Getty Images

อ้างอิง:

The post จีนเตือนก่อตั้งพันธมิตรทางทหารคล้าย NATO ในเอเชีย-แปซิฟิก ผลักภูมิภาคสู่วังวนความขัดแย้ง appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เตือน สงครามไต้หวันจะเป็นหายนะทำลายล้างโลก

Sun, 06/04/2023 - 18:13

ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เตือนว่า การทำสงครามเหนือเกาะไต้หวันจะเป็นหายนะ และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก “ในแบบที่เราคาดไม่ถึง” พร้อมกับเน้นย้ำถึงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มีต่อไต้หวันและภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

 

“ไม่มีความขัดแย้งที่ใกล้เข้ามาหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้ การป้องปรามในปัจจุบันนั้นแข็งแกร่ง และเป็นหน้าที่ของเราที่จะคงไว้ซึ่งแนวทางดังกล่าว” ออสตินกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคง Shangri-La Dialogue ที่สิงคโปร์ เมื่อวันเสาร์ (3 มิถุนายน) ซึ่งมีผู้แทนจากหลายสิบประเทศเข้าร่วม รวมถึงจีน

 

“ทั่วโลกมีส่วนได้เสียในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ความมั่นคงปลอดภัยของช่องทางเดินเรือเชิงพาณิชย์และห่วงโซ่อุปทานทั่วโลกขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ เสรีภาพในการเดินเรือทั่วโลกก็เช่นกัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการสู้รบในช่องแคบไต้หวันจะเป็นหายนะ”

 

ในช่วงถาม-ตอบหลังการกล่าวสุนทรพจน์ ออสตินยังกล่าวเสริมด้วยว่า “ความขัดแย้งในช่องแคบไต้หวันจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในแบบที่เรานึกไม่ถึง”

 

ไม่นานหลังจากออสตินขึ้นกล่าวบนเวที Shangri-La Dialogue เมื่อวันเสาร์ พล.ท. จิงเจี้ยนเฟิง แห่งกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนว่า ความเห็นของ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ต่อไต้หวันนั้น “ผิดทั้งหมด” พร้อมกล่าวหาวอชิงตันว่าพยายามใช้อำนาจครอบงำและยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้า และระบุว่าการกระทำของสหรัฐฯ กำลังทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

 

ถ้อยแถลงของออสตินเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนตึงเครียดขึ้นอีก เนื่องจากจีนเพิ่งปฏิเสธคำเชิญของออสตินที่เสนอให้มีการจัดประชุมทวิภาคีกับ รมว.กลาโหมของจีน นอกรอบการประชุมความมั่นคงที่สิงคโปร์ โดยอ้างถึงการที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่และบริษัทของจีน

 

ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันเสาร์ ออสตินยังได้กล่าวถึงการขาดการติดต่อสื่อสารระหว่างสองฝ่าย โดยกล่าวว่าเขากังวลอย่างยิ่งที่จีนไม่เต็มใจที่จะมีส่วนร่วมอย่างจริงจังมากขึ้นเกี่ยวกับกลไกในการจัดการวิกฤต

 

“สำหรับผู้นำที่มีความรับผิดชอบ เวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยคือทุกเวลา เวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยคือทุกเมื่อ และเวลาที่เหมาะสมในการพูดคุยคือเวลานี้” ออสตินกล่าว “การสนทนาแลกเปลี่ยนกันไม่ใช่การให้รางวัล มันคือสิ่งจำเป็น”

 

ออสตินเผยด้วยว่า เขาและ รมว.กลาโหมจีนยิ้มทักทายกันในงานเลี้ยงเมื่อคืนวันศุกร์ แต่แค่นั้นยังไม่พอ เขาเรียกร้องให้ปักกิ่งทำมากกว่านี้

 

“การจับมือทักทายอย่างจริงใจระหว่างมื้อค่ำไม่สามารถทดแทนการมีส่วนร่วมอย่างจริงจังได้” เขากล่าว

 

ตลอดการปราศรัยของเขา ออสตินกล่าวถึงแนวทางที่สหรัฐฯ ร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค โดยกล่าวว่าความร่วมมือเหล่านั้นกำลังทำให้ภูมิภาคนี้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และทำให้ภูมิภาคนี้มีเสถียรภาพและยืดหยุ่นมากขึ้น

 

ออสตินยืนยันอีกครั้งว่า สหรัฐฯ จะ “ยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราต่อไป” ในขณะที่พันธมิตรและหุ้นส่วนเหล่านี้พยายามรักษาสิทธิของตนเอง และสหรัฐฯ จะยังคงมีส่วนร่วมในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกอย่างเข้มแข็งและมีความรับผิดชอบ  

 

นอกจากนี้ ออสตินยังวิจารณ์จีนเรื่องการสกัดกั้นเครื่องบินของสหรัฐฯ และพันธมิตรในน่านฟ้าสากล ซึ่งเป็นการกระทำที่อันตราย โดยออสตินกล่าวว่า สหรัฐฯ จะสนับสนุนพันธมิตรและหุ้นส่วนให้ต่อต้าน “การบีบบังคับและการกลั่นแกล้ง” 

 

“เราไม่แสวงหาความขัดแย้งหรือการเผชิญหน้า” ออสตินกล่าว “แต่เราจะไม่ถอยหนีเมื่อเผชิญกับการกลั่นแกล้งหรือการบีบบังคับ”

 

พร้อมกันนี้ ออสตินยังย้ำถึงความพร้อมของสหรัฐฯ ในภูมิภาค

 

“วิธีที่คุณยับยั้งการตัดสินใจที่ผิดพลาดคือการมีกองทัพที่เชื่อถือได้ในการสู้รบ” เขากล่าวในการตอบคำถาม และเสริมว่าสหรัฐฯ “จะพร้อมไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”

 

ถ้อยแถลงของออสตินทำให้หลายฝ่ายยิ่งจับตาท่าทีจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของจีน โดยหลี่ซ่างฝูมีกำหนดขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวที Shangri-La Forum ในเช้าวันอาทิตย์ (4 มิถุนายน)

 

“น่าสนใจว่า พล.อ. หลี่จะตอบโต้อย่างไรในวันพรุ่งนี้” ดรูว์ ทอมป์สัน นักวิจัยอาวุโสจาก Lee Kuan Yew School of Public Policy มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ กล่าว

 

ภาพ: Getty Images

อ้างอิง:

The post รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เตือน สงครามไต้หวันจะเป็นหายนะทำลายล้างโลก appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เลือกตั้ง 2566 : หมอชลน่าน ร่วมงานไพรด์ ยืนยันเพื่อไทยพร้อมหนุนสมรสเท่าเทียม 6 มิ.ย. เตรียมคุย 8 พรรคร่วม

Sun, 06/04/2023 - 16:57

วันนี้ (4 มิถุนายน) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกิจกรรมบางกอกไพรด์ 2023 ว่าพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงมีการจัดบุคคลเข้ามาร่วมกิจกรรมในวันนี้ด้วย พร้อมผลักดันและสนับสนุนกฎหมายสมรสเท่าเทียม

 

ส่วนความคืบหน้าในการทำงานร่วมกันของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล วันที่ 6 มิถุนายนนี้ ที่พรรคเพื่อไทยจะมีการหารือร่วมกันของคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านและคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา โดยอาจจะมีการพิจารณาเพิ่มภารกิจในรายละเอียดขึ้นมาตาม MOU ที่มีทั้งหมด 23 ข้อ ซึ่งขณะนี้มีเพียง 7 คณะทำงานเท่านั้น 

 

สำหรับประเด็นที่จะต้องเร่งพิจารณาจะเน้นไปที่การทำงานเพื่อสังคม รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากราคาพลังงาน แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้เร่งรัดรัฐบาลรักษาการ ทั้งนี้ หากเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีรัฐบาลรักษาการก็สามารถนำไปปรับใช้ได้

 

และในวันที่ 7 มิถุนายนก็จะมีการประชุมร่วมกับคณะใหญ่ของหัวหน้า 8 พรรคการเมือง เพื่อติดตามความคืบหน้าของวาระงานว่ามีความคืบหน้าไปมากน้อยแค่ไหน

 

นอกจากนี้ นพ.ชลน่านยังให้ความเห็นถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการรับรองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า กกต. มีกรอบในการรับรอง ส.ส. ไม่เกินวันที่ 13 กรกฎาคม ซึ่งเป็นสภาพบังคับตามกฎหมายภายใน 60 วัน ซึ่งคาดว่าภายในกลางเดือนนี้จะมีความชัดเจน หลังเลขาธิการ กกต. ออกมาแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า กกต. จะเริ่มรับรอง ส.ส. ภายในกลางเดือนนี้

The post เลือกตั้ง 2566 : หมอชลน่าน ร่วมงานไพรด์ ยืนยันเพื่อไทยพร้อมหนุนสมรสเท่าเทียม 6 มิ.ย. เตรียมคุย 8 พรรคร่วม appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เลือกตั้ง 2566 : ชัชชาติน้อมรับผลโพลคนกรุงพอใจลดลง เปรียบเหมือนรถใหม่ถอยมาแล้วราคาตก มอบหน่วยงานเก็บข้อมูลเร่งปรับปรุง

Sun, 06/04/2023 - 15:42

วันนี้ (4 มิถุนายน) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจนิด้าโพล ที่สำรวจความพึงพอใจการบริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาลดลง ว่าส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใดๆ ได้แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว และจะนำสิ่งที่ประชาชนคิดเห็นไปปรับปรุง เปรียบนักการเมืองก็เหมือนรถใหม่ วันแรกที่ถอยรถออกมาราคาปกติ จากนั้นราคาก็ลดลง แต่ย้ำว่าจะนำความเห็นทุกอย่างมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ขณะเดียวกันต้องคุยกับรัฐบาลใหม่ด้วย โดยเฉพาะปัญหาค่าครองชีพของประชาชน

 

“ไม่เป็นไร เป็นเรื่องธรรมดา พร้อมน้อมรับและนำมาปรับปรุง ดีแล้วที่มีคนติ ถ้ามีคนชมอย่างเดียวเราไม่รู้จะปรับปรุงตรงไหน เราก็ต้องเดินหน้าเต็มที่ คำติเหมือนเป็นแรงผลักดันของเรา ยิ่งกว่าคำชมอีก เรายิ่งต้องเปลี่ยนมาเป็นพลังบวกให้ได้ ก็ขอบคุณ 1 ปี เราทำเต็มที่แล้ว เชื่อว่าเราได้รับความร่วมมือหลายๆ ด้าน” ชัชชาติกล่าว

 

ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้วิเคราะห์ว่าคะแนนนิยมที่ลดลงมาจากสาเหตุใด แต่ก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาต่อการทำงานย่อมมีคนชอบและไม่ชอบ แต่ก็มอบหมายให้ทีมงานแต่ละด้านไปวิเคราะห์จุดอ่อน และจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับ 1 ปีที่ผ่านมา พร้อมขอบคุณผลสำรวจโพลที่ทำให้ทราบรายละเอียดที่ต้องแก้ไข 

 

ส่วนการรับมือกับฤดูฝนในกรุงเทพฯ ชัชชาติเชื่อว่าสถานการณ์ปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เพราะทำตามแผนการระบายน้ำและลอกท่อ รวมถึงโครงการหลายอย่างได้ดำเนินการเสร็จสิ้นไปบ้างแล้ว โครงการประตูระบายน้ำที่เสร็จสิ้นไปแล้วร้อยละ 50 และเตรียมความพร้อมแบบชั่วคราวในการรับมือด้วย เรายอมรับเป็นห่วงจุดก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย ที่จะต้องไปดูว่ามีการกีดขวางทางระบายน้ำหรือไม่ 

 

ส่วนพื้นที่เสี่ยงในกรุงเทพฯ มีตรงจุดคลองเปรมประชากร, คลองลาดพร้าว และคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งถือเป็นคลองหลัก โดยเฉพาะคลองลาดพร้าวที่มีการรุกล้ำพื้นที่เป็นจำนวนมาก การไปขุดลอกคลองลำบาก ส่วนคลองประเวศบุรีรมย์ ที่มีการเสนอโครงการระบายน้ำไปฝั่งตะวันออก ก็ยังอยู่ในแผนเนื่องจากมีเส้นทางยาว แต่ขณะนี้ร่วมมือกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว เพื่อที่จะระบายน้ำไปยังฉะเชิงเทราได้มากขึ้น ขณะเดียวกันยืนยันว่า กว่า 500 จุดที่มีปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ จะนำมาเป็นบทเรียน จัดทำเป็นแผนที่ในการแก้ไขแล้ว 

 

ชัชชาติกล่าวย้ำอีกว่า อุโมงค์ระบายน้ำก็มีประสิทธิภาพอยู่ ที่ผ่านมาไม่ใช่ปัญหา แต่พบว่าน้ำไม่ไปถึงอุโมงค์ระบายน้ำ ดังนั้นจะต้องทำโครงการเส้นเลือดฝอยให้เข้มแข็ง ทั้งการดูแลปั๊มสูบน้ำ การลอกท่อ ซึ่งจะต้องเข้มแข็งเพื่อไปสู่เส้นเลือดใหญ่ ส่วนการลอกท่อได้ดำเนินการไปแล้วกว่า 3,000 กิโลเมตร และภายในปีนี้จะสามารถลอกท่อได้ 100% ซึ่งก็ยอมรับว่าประชาชนรับทราบ น้ำมีการระบายได้เร็วขึ้น และย้ำว่าใน 4 ปี ประชาชนจะได้เห็น 200 นโยบายที่ประกาศไว้ อาจจะมีบางข้อที่จะต้องปรับปรุง เนื่องจากไม่ทันสมัย ขณะเดียวกัน คาดว่าสัปดาห์หน้าเว็บไซต์ที่ติดตาม 200 นโยบายจะแล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นการติดตามงานได้มากขึ้น เพราะทุกเขตจะมีการรายงานทุกปัญหาเข้ามา 

 

ส่วนในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ จะมีการหารือกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ชัชชาติกล่าวว่า มี 17-18 ประเด็นในการหารือ ส่วนตัวมองว่าไม่ว่าเป็นใครก็ตามที่เป็นรัฐบาลก็ต้องหารือในประเด็นนี้ โดยเฉพาะการใช้ทรัพยากรหลักในการเข้ามาสนับสนุนการทำงานในกรุงเทพฯ ทั้งใช้พื้นที่ใต้ทางด่วนปลูกต้นไม้ การคมนาคมขนส่ง การจราจร สาธารณสุข สวนสาธารณะ บางเรื่อง กทม. ไม่มีอำนาจเต็มโดยตรง

The post เลือกตั้ง 2566 : ชัชชาติน้อมรับผลโพลคนกรุงพอใจลดลง เปรียบเหมือนรถใหม่ถอยมาแล้วราคาตก มอบหน่วยงานเก็บข้อมูลเร่งปรับปรุง appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เต็มที่แล้ว บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้รองแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023

Sun, 06/04/2023 - 15:13

วันนี้ (4 มิถุนายน) การแข่งขันแบดมินตันในรายการ ‘โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023’ ทัวร์นาเมนต์ระดับเอชเอสบีซี บีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยมีเงินรางวัลรวม 420,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 14,280,000 บาท ที่อินดอร์สเตเดียม หัวหมาก

 

โดยในประเภทคู่ผสมรอบชิงชนะเลิศ บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มือวาง 1 ของรายการ คู่มืออันดับ 2 ของโลก ลงสนามพบกับ คิมวอนโฮ กับ จองนาอึน คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้

 

เกมแรกเป็นคู่ไทยที่ชนะไปได้ก่อน 21-11 แต่ในเกมที่ 2 คู่เกาหลีใต้เอาชนะไปได้ 21-19 ไล่ขึ้นมาเป็น 1-1 เกม

 

เกมตัดสินแม้ว่าไทยจะเป็นฝ่ายขึ้นแท่นได้แชมเปียนชิปพอยต์ก่อนที่ 20-19 แต่สุดท้ายคู่เกาหลีใต้พลิกมาชนะไปได้ 22-20 ส่งผลให้ คิมวอนโฮ กับ จองนาอึน คู่มือวาง 5 ของรายการ คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากเกาหลีใต้ คว้าแชมป์ประเภทคู่ผสมไปครอง ด้วยชัยชนะเหนือคู่ผสมไทย 2-1 เกม ด้วยสกอร์ 11-21, 21-19 และ 22-20

The post เต็มที่แล้ว บาส-เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ-ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ได้รองแชมป์ไทยแลนด์ โอเพ่น 2023 appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เงินลงทุนราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังจะถูกดูดออกไปเพิ่มเติมจากตลาดการลงทุน

Sun, 06/04/2023 - 15:02

หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงในการขยายเพดานหนี้เป็นที่เรียบร้อย แต่หลังจากนี้กระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ก็เตรียมที่จะเร่งออกพันธบัตรจำนวนมหาศาลเพื่อดึงเงินกลับเข้ามาเติมเงินกองทุนของประเทศที่ใช้ไปในช่วงก่อนหน้านี้ 

 

Nikolaos Panigirtzoglou นักกลยุทธ์ของ JPMorgan Chase & Co. คาดการณ์ว่า ผลกระทบจากการเร่งออกพันธบัตรรัฐบาล พร้อมกับผลจากการทำ Quantitative Tightening  (QT) จะกระทบต่อผลตอบแทนของดัชนี S&P 500 ราว 5% โดยตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับการประเมินของ Citigroup ที่คาดว่าผลกระทบจะอยู่ที่ราว 5.4% ภายในเวลา 2 เดือน หลังจากที่สภาพคล่องลดลง

 

การออกขายพันธบัตรจะเริ่มต้นในวันจันทร์นี้ โดยจะกระทบต่อทุกๆ สินทรัพย์ โดย JPMorgan คาดว่าจะทำให้สภาพคล่องโดยรวมลดลง 1.1 ล้านดอลลาร์ จากสภาพคล่องทั้งหมดประมาณ 25 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วงต้นปี 2023 

 

Panigirtzoglou กล่าวว่า “นี่เป็นการดูดสภาพคล่องที่เยอะมาก เราไม่ค่อยเห็นอะไรแบบนี้ โดยปกติสถานการณ์เช่นนี้มักจะเกิดขึ้นเฉพาะช่วงที่เกิดวิกฤตใหญ่อย่างวิกฤต Lehman” 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการที่สภาพคล่องจะไหลออกจากระบบเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก สำหรับผู้ที่จะเข้ามารับซื้อตั๋วเงินคลังเหล่านี้มีทั้งธนาคารพาณิชย์ กองทุนตลาดเงิน บริษัทไฟแนนซ์ รวมทั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญ และบริษัทต่างๆ 

 

แม้ว่าแบงก์อาจจะไม่ได้สนใจการลงทุนในตั๋วเงินคลังมากนักในเวลานี้ เพราะอัตราผลตอบแทนที่ไม่ได้น่าดึงดูดใจมากนักเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกเขาได้รับจากการใช้เป็นเงินทุนสำรองเพื่อปล่อยกู้ แต่ถึงแม้ว่าแบงก์ต่างๆ จะไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการซื้อมากนัก แต่เพียงแค่ลูกค้าของแบงก์นำเงินฝากออกไปลงทุนซื้อพันธบัตรก็เป็นแรงต้านต่อตลาดทุน

 

Ulrich Urbahn หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ในหลายสินทรัพย์ลงทุนของ Berenberg กล่าวว่า “เราคิดว่าตลาดหุ้นกำลังจะปรับตัวลง เพราะสภาพคล่องที่ลดลง รวมทั้งสัญญาณลบจากตัวบ่งชี้ล่วงหน้าบางส่วน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่สนับสนุนตลาดหุ้น”

 

อ้างอิง:

The post เงินลงทุนราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังจะถูกดูดออกไปเพิ่มเติมจากตลาดการลงทุน appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

โมดีประกาศลงโทษผู้รับผิดชอบเหตุรถไฟอินเดียชนประสานงา ขณะที่ยอดเสียชีวิตพุ่งเกือบ 300 ราย

Sun, 06/04/2023 - 10:29

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุรถไฟชนประสานงาในรัฐโอริสสา ทางภาคตะวันออก ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 288 ราย และบาดเจ็บกว่า 800 ราย พร้อมประกาศจะดำเนินการลงโทษผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากกรณีที่เกิดขึ้น 

 

อุบัติเหตุดังกล่าวเกี่ยวข้องกับรถไฟโดยสาร 2 ขบวน และรถไฟบรรทุกสินค้า 1 ขบวน ซึ่งทางการได้ยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตตั้งแต่เมื่อวานนี้ (3 มิถุนายน) หลังสามารถกู้ร่างผู้โดยสารที่บาดเจ็บและติดอยู่ในซากรถไฟออกมาได้แล้วทั้งหมด

 

ขณะที่นายกรัฐมนตรีโมดีกล่าวว่าเขารู้สึกเจ็บปวดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเขายังได้เข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล และให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะให้การรักษาผู้บาดเจ็บทั้งหมด

 

ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่าอะไรเป็นสาเหตุของการชนประสานงากันของรถไฟทั้ง 3 ขบวน ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุทางรถไฟครั้งเลวร้ายที่สุดของอินเดียในรอบศตวรรษ

 

โดยทางการอินเดียได้เปิดการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ขณะที่รายงานขั้นต้นชี้ว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นผลมาจากความล้มเหลวในการทำงานของสัญญาณรถไฟ ซึ่งระหว่างเกิดเหตุคาดว่ามีผู้โดยสารราว 2,000 คนอยู่ในรถไฟโดยสาร 2 ขบวน

 

ภาพ: Dibyangshu Sarkar / AFP

อ้างอิง:

The post โมดีประกาศลงโทษผู้รับผิดชอบเหตุรถไฟอินเดียชนประสานงา ขณะที่ยอดเสียชีวิตพุ่งเกือบ 300 ราย appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

M.A.C ร่วมเนรมิตความสวยงามให้กับขบวนพาเหรด LGBTQIA+ ใน Bangkok Pride 2023

Sun, 06/04/2023 - 10:25

M.A.C ร่วมเนรมิตความสวยงามให้กับขบวนพาเหรด LGBTQIA+ ใน Bangkok Pride 2023 

 

เครื่องสำอาง M.A.C เป็นที่รู้จักอยู่แล้วในด้านความเป็นมืออาชีพในการสร้างสีสันและความหลากหลายให้กับทุกเพศ ทุกอัตลักษณ์ โดยล่าสุดได้เข้าร่วมสนับสนุน Bangkok Pride 2023 ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความภาคภูมิใจของชุมชน LGBTQIA+ และเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกถึงตัวตนที่หลากหลายในวันนี้ (4 มิถุนายน) โดยพาเหรดจะจัดขึ้นตั้งแต่เวลา 14.00-21.00 น.

 

ทั้งนี้งาน Bangkok Pride 2023 จะดำเนินงานโดย ‘นฤมิตไพรด์’ Social Enterprise ที่มีจุดมุ่งหมายในการสร้างการยอมรับความหลากหลายทางเพศในสังคมไทยและพื้นที่สร้างสรรค์ทางวัฒนธรรมสำหรับชุมชน LGBTQIA+ ร่วมกับ ‘กรุงเทพมหานคร’ โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘Beyond Gender’ กล่าวคือไม่ใช่เพียงการสนับสนุนความหลากหลายทางเพศ แต่ยังมีวาระที่จะขับเคลื่อนสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียม ครอบคลุมความหลากหลายใน 4 มิติสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการรับรองเพศสภาพ (Gender Recognition), สมรสเท่าเทียม (Marriage Equality), สิทธิของ Sex Workers (Sex Work Rights) และสวัสดิการถ้วนหน้าสำหรับ LGBTQIA+ (Equal Right to Health)  

 

ในปีนี้ M.A.C ประเทศไทย จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Pride ผ่านกิจกรรมต่างๆ โดยจะมอบบริการสุดพิเศษสำหรับผู้ร่วมงานดังนี้ 

 

  • บริการ Face Painting ฟรีโดย Makeup Artists ของ M.A.C ตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ที่บูธของ M.A.C บริเวณห้องอเนกประสงค์ชั้น 1 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) (จุดลงทะเบียนด้านนอกอาคาร หน้าเวทีหลัก) 
  • มอบบัตรกำนัล บริการแต่งหน้า เพื่อรับบริการตลอดเดือนมิถุนายน  
  • ยกทัพ M.A.C Cosmetics National Artist พร้อม Makeup Artists Pro Team ร่วมขบวน Pride Parade

 

ผู้ที่สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Bangkok Pride 2023 เตรียมตัวไปร่วมขับเคลื่อนพลังแห่งความหลากหลายกันได้ที่ Pride Parade โดยจะเริ่มตั้งขบวนตั้งแต่เวลา 14.00 น. บริเวณแยกปทุมวัน หน้าลานหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ก่อนจะเคลื่อนขบวนในเวลา 16.00 น. ไปยังแยกราชประสงค์ (ถนนพระราม 1) เป็นระยะทาง 1.448 เมตร ตามมาตรา 1448 สมรสเท่าเทียม และพบกับเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ศิลปินจากสื่อบันเทิง LGBTQIA+ ที่จะมาร่วมแต่งแต้มสีสันให้งานแห่งความภาคภูมิใจครั้งนี้สวยงามกว่าที่เคยเป็น

 

ภาพ: Courtesy of M.A.C

The post M.A.C ร่วมเนรมิตความสวยงามให้กับขบวนพาเหรด LGBTQIA+ ใน Bangkok Pride 2023 appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

โค้ชด่วนเผย ไม่ประมาทเกาหลีใต้แม้แพ้สองเกมแรก ด้านทัดดาวยันเกมวันนี้ทำเต็มที่

Sun, 06/04/2023 - 10:16

วานนี้ (3 มิถุนายน) โค้ชด่วน-ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์ก่อนเกมเจอเกาหลีใต้ในวันนี้ (4 มิถุนายน) ว่าจะแก้แผนจากเกมที่แพ้โปแลนด์และไม่ประมาททีมชาติเกาหลีใต้ 

 

“เป็นเกมที่เราประมาทไม่ได้ แม้เกาหลีใต้เองก็เป็นแค่เด็ก แต่ว่าเป็นทีมที่ค่อนข้างที่จะเหนียวแน่นในการเล่น ถึงผลการแข่งขันสองแมตช์ที่ผ่านมาจะไม่ค่อยดีเท่าไร แต่ก็ประมาทเขาไม่ได้จริงๆ

 

“ผมก็พยายามแก้ไขจุดบกพร่องของแมตช์ที่แล้วแล้วก็พยายามที่จะเล่นกับเกาหลีพรุ่งนี้ด้วยครับ” โค้ชด่วนกล่าว

 

ทางด้าน ทัดดาว นึกแจ้ง ได้กล่าวอย่างมั่นใจในการสัมภาษณ์เช่นกันว่าจะซ้อมให้ดีและทำเต็มที่ในการแข่ง

 

“เกาหลีใต้เราก็ไม่ประมาทเขา เพราะว่าเขาก็หวังที่จะชนะเราเหมือนกัน แต่เราก็อยากจะชนะเขาเหมือนกัน วันนี้ก็ถือว่าเรามาซ้อมทีมของเรา ระบบของเรา เพื่อที่จะสู้กับเขาในวันพรุ่งนี้ แล้วก็จะทำให้เต็มที่และดีที่สุด รักษาหน้าที่ของเราให้ดีค่ะ” ทัดดาวกล่าว

 

สำหรับทีมตบลูกยางสาวไทยจะเจอกับทีมชาติเกาหลีใต้ อันดับ 24 ของโลก ในวันนี้ เวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

The post โค้ชด่วนเผย ไม่ประมาทเกาหลีใต้แม้แพ้สองเกมแรก ด้านทัดดาวยันเกมวันนี้ทำเต็มที่ appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

ความลึกลับของเงินและความสุข: ถ้าเงินซื้อความสุขไม่ได้ แสดงว่าคุณใช้เงินไม่ถูกวิธี

Sun, 06/04/2023 - 10:09

การวิจัยทางการเงินจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่การทำเงิน เช่น การหาวิธีที่ดีที่สุดในการลงทุน ขณะเดียวกันก็มีหลายวิธีที่จะใช้เงินอย่างชาญฉลาดเพื่อความสุข แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจเพราะการวิจัยมักแสดงให้เห็นว่าเงินและความสุขไม่ได้ไปด้วยกันเสมอไป

 

บางครั้งผู้คนมักพูดว่าความสุขที่แท้จริงในชีวิตไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงิน แต่ลองมองในอีกมุมหนึ่ง เงินสามารถจัดหาอาหารที่ดีกว่า การดูแลสุขภาพ กิจกรรมสันทนาการ การศึกษา และเวลาว่างให้กับคนที่เรารัก บางทีปัญหาที่แท้จริงอาจไม่ใช่การที่เงินสร้างความสุขไม่ได้ แต่อยู่ที่คนไม่รู้จักใช้มันอย่างไรให้มีความสุขสูงสุดต่างหาก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและนักจิตวิทยาได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เอลิซาเบธ ดันน์ (มหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย), แดเนียล กิลเบิร์ต (มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด) และทิโมธี วิลสัน (มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย) ได้ทบทวนการศึกษาจำนวนมากและสรุปผลการวิจัยของพวกเขาออกมาเป็น 5 เรื่อง ได้แก่

 

1. ลงทุนใน ‘ประสบการณ์’ ไม่ใช่แค่สิ่งของ

 

เรามักตัดสินว่าผู้คนใช้จ่ายเงินในวันหยุดหรืออาหารมื้อค่ำราคาแพงว่าเป็นคนไม่รอบคอบ โดยคิดว่าไม่มีอะไรที่จับต้องได้ในภายหลัง เรามักพิจารณาการซื้อที่ใช้งานได้จริง เช่น การปรับปรุงบ้านหรือซื้อรถที่ดีกว่าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดกว่า แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าในอดีตการใช้จ่ายกับประสบการณ์มีส่วนอย่างมากต่อความสุข

 

ผู้คนคุ้นเคยกับทรัพย์สินทางกายภาพอย่างรวดเร็ว เช่น บ้านที่ออกแบบใหม่หรือรถที่อัปเกรดแล้ว อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์เช่นการไปเที่ยวซาฟารีในแอฟริกาจะทิ้งความทรงจำอันยาวนานไว้ ซึ่งยังคงสร้างความสุขไปอีกนานหลังจากจบกิจกรรม อีกทั้งความตื่นเต้นของการรอคอยก่อนสัมผัสก็นำมาซึ่งความสุขได้เช่นกัน

 

นอกจากนี้ การศึกษาเกี่ยวกับการเจริญสติยังแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่ชัดเจนระหว่างความฟุ้งซ่านของจิตใจและการไม่มีความสุข โดยความทุกข์มักจะผูกติดอยู่กับการไม่อยู่กับปัจจุบันอย่างเต็มที่ แต่ประสบการณ์ดึงดูดคุณและทำให้คุณมีส่วนร่วมกับช่วงเวลาปัจจุบัน

 

2. ใช้จ่ายเพื่อผู้อื่น ไม่ใช่แค่เพื่อตัวคุณเอง

 

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ความสุขของเราเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับคุณภาพของความสัมพันธ์ของเรา การศึกษาแสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าผู้คนรายงานว่ามีความสุขในระดับที่สูงขึ้นเมื่อพวกเขาใช้เงินเพื่อคนอื่นมากกว่าเพื่อตัวเอง น่าแปลกที่ผู้คนมักคาดหวังในสิ่งที่ตรงกันข้าม นั่นคือพวกเขาคิดว่าจะมีความสุขมากกว่าที่จะใช้เงินเพื่อตัวเอง

 

3. เลือกหาความสุขเล็กๆ น้อยๆ แทนที่จะเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่

 

ความสุขเล็กๆ น้อยๆ มักจะนำมาซึ่งความสุขมากกว่าประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่และมีราคาแพง ตัวอย่างเช่น การได้ดื่มด่ำกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เป็นประจำ เช่น กาแฟสักแก้ว หรือทำเล็บเท้า อาจทำให้คุณมีความสุขมากกว่าการเสียเงินซื้อบัตรคอนเสิร์ตใบใหญ่

 

หลักการนี้เป็นไปตามแนวคิดทางเศรษฐศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นว่าการพักร้อน 2 สัปดาห์อาจไม่สนุกเป็น 2 เท่าของการพักผ่อน 1 สัปดาห์แยกกัน 2 ครั้ง ในความเป็นจริง การศึกษาบ่งชี้ว่าความสุขเกี่ยวข้องกับความถี่ของประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจมากกว่า

 

4. ระวังการประกันภัยที่ไม่จำเป็น

 

ประเด็นนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะกับการประกันภัยตามตัวอักษร เช่น การรับประกันเพิ่มเติมที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ยังรวมถึง ‘การประกัน’ ในแง่ของนโยบายการคืนสินค้าแบบกว้างๆ บริษัทต่างๆ เช่น ผู้คนอาจชอบซื้อของบน Amazon มากกว่า eBay หรือ craigslist แม้ว่ามันอาจจะแพงกว่าก็ตาม เพราะพวกเขาสามารถคืนสินค้าที่ไม่ชอบได้

 

แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าจริงๆ แล้วเรามักจะมีความสุขกับสินค้ามากกว่าหากเราไม่มีตัวเลือกในการคืนสินค้า

 

5. หลีกเลี่ยงการจับจ่ายแบบเปรียบเทียบ

 

ในยุคของการช้อปปิ้งออนไลน์นี้ การติดกับดักของการจับจ่ายแบบเปรียบเทียบเป็นเรื่องง่าย คุณอาจพบว่าตัวเองกำลังเปรียบเทียบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของผลิตภัณฑ์และกังวลกับความแตกต่างเล็กน้อย พฤติกรรมนี้เป็นอันตราย เพราะสร้างภาพลวงตาของความแตกต่างที่สำคัญซึ่งอาจไม่มีอยู่จริง นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณมองไม่เห็นมูลค่าโดยรวมของผลิตภัณฑ์

 

โปรดจำไว้ว่าผลิตภัณฑ์มีศักยภาพที่จะทำให้คุณมีความสุขเพราะช่วยให้คุณตอบสนองความต้องการของคุณ ไม่ใช่เพราะมันดีกว่าทางเลือกอื่น ในความเป็นจริง หากคุณสมบัติหลักของผลิตภัณฑ์สอดคล้องกับความต้องการของคุณ คุณอาจจะหลงรักผลิตภัณฑ์นี้โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างเล็กน้อย

 

ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่าความเข้าใจเรื่องเงินและความสุขของเราซับซ้อนกว่า ‘เงินซื้อความสุขไม่ได้’ ด้วยการคิดอย่างรอบคอบและตัดสินใจใช้จ่ายที่สอดคล้องกับค่านิยมและความสัมพันธ์ของคุณ เงินสามารถนำไปสู่ความสุขได้อย่างแท้จริง

 

อ้างอิง:

The post ความลึกลับของเงินและความสุข: ถ้าเงินซื้อความสุขไม่ได้ แสดงว่าคุณใช้เงินไม่ถูกวิธี appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ กับฤดูกาลแรกที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้

Sun, 06/04/2023 - 10:03

เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ เริ่มต้นฤดูกาลแรกกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยผลงานแชมป์พรีเมียร์ลีก แชมป์เอฟเอคัพ และเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกที่ 36 ประตู

 

รวมถึงต่อจากนี้ยังมีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าเทรเบิลแชมป์ ด้วยการผ่านเข้าไปชิงแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกกับอินเตอร์ มิลาน ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายนนี้ เวลา 02.00 น. 

 

The post เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ กับฤดูกาลแรกที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ appeared first on THE STANDARD.

Categories: New Media

Pages